ประเภทขอเครื่องดับเพลิง - ถังดับเพลิง
1. ถังดับเพลิง MULTI PURPOSE DRY CHEMICAL FIRE EXTINGUISHER
1.1 เครื่องดับเพลิงเอนกประสงค์ชนิดผงเคมีแห้งใช้ง่ายปลอดภัย (รับรองมาตรฐาน ม.อ.ก.)
1.2 ใช้ดับไฟที่เกิดจากไม้, กระดาษ, สิ่งทอ, ยาง, น้ำมัน, ก๊าซ และไฟฟ้า
2. ถังดับเพลิง CO2 CARBON DIOXIDE FIRE EXTINGUISHER
2.1 ลักษณะที่ปล่อยมาเหมือนหมอกสีขาวที่กลืนไปกับไฟและดับไฟโดยการกำจัดออกซิเจนมีผลสำหรับกลุ่ม B (สารไวไฟ) และกลุ่ม C (จากไฟฟ้า) ไม่เป็นตัวนำไฟฟ้า
2.2 สะอาดไม่ทำให้เปรอะเปรื้อนไม่มีกลิ่นและปลอดภัยสำหรับใช้บนผ้า เอกสารมีค่าและในครัวเรือน
2.3 สามารถดับไฟได้ 2 ประเภท B,C
3. ถังดับเพลิง FE(36) NON C.F.C FIRE EXTINGUISHER
3.1 เป็นสารเหลวระเหยชนิดทดแทน
3.2 ได้รับการรับรองว่าเป็นเครื่องดับเพลิงที่ปลอดภัยสะอาดและใช้สะดวกที่สุด
3.3 ไม่เกิดสนิม ให้อายุใช้งานได้ยาวนาน
3.4 ไม่มีภาวะมลพิษกับสิ่งแวดล้อม
3.5 ใช้ดับไฟได้ 3 ประเภทชนิด A,B,C
4. ถังดับเพลิง HALOTRON NON-C.F.C. FIRE EXTINGUISHER
4.1 OZONE FRIENDLY
4.2 เป็นสารเหลวระเหยชนิดทดแทน
4.3 ไม่เกิดสนิม ให้อายุใช้งานได้ยาวนาน
4.4 ระยะฉีดใช้ 2-10 เมตร (แล้วแต่ขนาด)
4.5 รักษาสิ่งแวดล้อมไม่ทำลายชั้นบรรยากาศ
4.6 ใช้ดับไฟได้ 3 ประเภทชนิด A,B,C
5. ถังดับเพลิง AUTOMATIC UNIT FIRE EXTINGUISHER
5.1 มี 3 ประเภท เคมีแห้ง, FE CLEAN AGENT NON-C.F.C. และ HALOTRON NON-C.F.C.
5.2 ขนาดบรรจุ 10 ปอนด์
5.3 หัวฉีดเป็นแบบสปริงเกอร์กระเปาะแก้ว
5.4 ทำงานที่อุณหภูมิ 68 องศา ฯ
5.5 พื้นที่ดับไฟประมาณ 9-12 ตารางเมตร
5.6 เหมาะสำหรับติดตั้งบริเวณฝ้าเพดาน
6. ถังดับเพลิง เครื่องดับเพลิง ชนิด WATER (STAINLESS STEEL)
6.1 น้ำบริสุทธิ์แรงดันไนโตรเจน
6.2 ตัวถังผลิตจากสแตนเลส
6.3 ระยะฉีดใช้ 6-8 เมตร
6.4 สามารถดับไฟได้ 1 ประเภท A
6.5 ขนาดบรรจุ 9 ลิตร
7. ถังดับเพลิง เครื่องดับเพลิง ชนิดโฟม FOAM (STAINLESS STEEL)
7.1 น้ำยาโฟมชนิดเข้มข้น AFFF
7.2 ตัวถังผลิตจากสแตนเลส
7.3 ระยะฉีดใช้ 6-8 เมตร
7.4 สามารถดับไฟได้ 2 ประเภท A,B
7.5 ขนาดบรรจุ 9 ลิตร
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
เกร็ดความรู้เพิ่มเติม : ความรู้เรื่องไฟ
การจำแนกไฟไหม้ - การเกิดไฟไหม้ถูกจำแนกลักษณะออกเป็น 5 ประเภท เพื่อให้สะดวกต่อการเลือกใช้วิธีดับไฟ
Class A
เป็น การลุกไหม้ของวัสดุที่เป็นเชื้อเพลิงทั่วๆไป เช่น กระดาษ ไม้ ผ้า ขยะแห้ง และพลาสติกบางชนิด
A หมายถึงเครื่องดับเพลิงที่เหมาะสำหรับดับเพลิงที่เกิดจากวัสดุทั่วไป เช่น ไม้ กระดาษ ผ้า เป็นต้น
Class B
ได้แก่การลุกไหม้ของของเหลวที่ติดไฟง่าย เช่น น้ำมันเบนซิน น้ำมันก๊าด ทินเนอร์ น้ำมันสน แอลกอฮอล์
B หมายถึงเครื่องดับเพลิงที่เหมาะสำหรับดับเพลิงที่เกิดจากน้ำมันเชื้อเพลิง หรือของเหลวที่ไวไฟ
Class C
การลุกไหม้ของวัสดุทางด้านไฟฟ้า เช่น สายไฟ ปลั๊กไฟ สวิช และอุปกรณ์ไฟฟ้าทุกชนิด
Cหมายถึงเครื่องดับเพลิงที่เหมาะสำหรับดับเพลิงที่เกิดจากการลุกไหม้ของอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ เนื่องจากตัวสารเคมีที่ใช้จะไม่นำไฟฟ้า
Class D
เป็นการลุกไหม้ของโลหะบางชนิดที่ สามารถติดไฟได้ เช่น โซเดียม โปแตสเซียม ไททาเนียมและแมกนีเซียม โลหะพวกนี้ ปกติจะติดไฟยาก แต่เมื่อติดไฟแล้ว จะกำเนิดก๊าซออกซิเจนออกมาทำให้ดับได้ยาก โลหะบางชนิดเมื่อติดไฟแล้วอาจทำปฏิกริยากับน้ำและสารเคมีที่ใช้ดับไฟถึงขั้นระเบิดได้ ต้องระวัง
Dหมายถึงเครื่องดับเพลิงที่เหมาะสำหรับดับเพลิงที่เกิดจากโลหะที่ติดไฟได้
Class K
ไฟที่เกิดจากน้ำมันที่ติดไฟยาก เช่น น้ำมันทำอาหาร น้ำมันพืช ไขมันสัตว์ติดไฟ
Kวิธีดัีบไฟประเภท K ที่ดีที่สุด คือ การกำจัดออกซิเจน การทำให้อับอากาศ ซึ่งจะมีดังดับเพลิงชนิดพิเศษที่สามารถ ดับไฟชนิดนี้โดยเฉพาะ
ปัจจุบันนี้ ได้มีการผลิตเครื่องดับเพลิงที่สามารถดับเพลิงได้หลายประเภท ดังนั้น เราอาจเห็นถังดับเพลิง ที่ติดป้าย A-B หรือ B-C หรือแม้แต่ A-B-C ได้ นอกจากนี้ เครื่องดับเพลิงยังแบ่งเป็นหลายชนิด ขึ้นอยู่กับสารที่บรรจุไว้ในถัง
เช่น
ผงเคมีแห้ง เป็นผงสารเคมีที่ถูกบรรจุอยู่ในถังที่อัดก๊าซที่ไม่ติดไฟไว้ เมื่อกดปุ่ม ก๊าซก็จะผลักดันให้ผง เคมีออกจากถังฮาลอน (Halon) เป็นสารดับเพลิงที่มีลักษณะเป็นก๊าซ นิยมใช้ดับเพลิงที่ลุกไหม้สิ่งที่มีค่า เช่น ในกรณีที่เกิดไฟไหม้ห้องคอมพิวเตอร์ หรือห้องผ่าตัด เพราะเมื่อฉีดไปแล้วจะไม่ทิ้งคราบไว้ตรงบริเวณที่ฉีด หรือ ทำความสะอาดได้ง่าย แต่มีข้อเสียคือ สามารถดับเพลิงได้ในระยะใกล้ๆเท่านั้น
น้ำ เป็นถังดับเพลิงที่บรรจุน้ำธรรมดาและก๊าซที่ถูกอัดไว้ เหมาะสำหรับดับเพลิง Class A เท่านั้น
คาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) เป็นก๊าซที่ถูกอัดแน่นจนเป็นของเหลวเมื่อฉีดออกมาจะเกิดโฟมที่เย็นจัด ช่วยลดอุณหภูมิในบริเวณที่เกิดเพลิงไหม้ ใช้ได้ดีมากกับไฟไหม้ Class B และ C แต่สามารถดับไฟได้ดี แค่ระยะ 3-8 ฟุต
ข้อห้ามในการดับเพลิง
มีข้อห้าม 3 ข้อที่ท่านต้องจำให้ขึ้นใจ เวลาจะเข้าทำการดับไฟ
กฎข้อที่ 1 เมื่อไฟไหม้ลุกลามมาก เช่น ภายในอาคารหรือโรงฝึก วิชาชีพ อย่าเพิ่งทำการดับเพลิงจนกว่าจะแน่ใจว่ามีทางออกจาก ตัวอาคารแน่นอนแล้ว และไฟที่กำลังไหม้นั้น ไม่มีแนวโน้มจะลุก ลามมากั้นทางออกของคุณ
กฎข้อที่ 2 อย่าเสียเวลาดับเพลิง ถ้าเห็นว่าน้ำยาดับเพลิง, กำลังเจ้าหน้าที่หรือน้ำที่มีอยู่ ไม่ได้สัดส่วนกับขนาดของไฟที่กำลังลุกไหม้ ควรเอาตัวรอดหรือทำการอพยพผู้คน (ผู้ต้องขัง)จะดีกว่า เพราะถึงอย่างไร ชีวิตก็ยังมีค่ากว่าทรัพย์สิน
กฎข้อที่ 3ถ้าเพลิงลุกลามมาก อย่าดับเพลิงตามลำพัง มิฉะนั้น ถ้ามีเหตุการณ์แทรกซ้อน เช่น การระเบิด การสำลักควัน จะไม่มี คนช่วยพาคุณออกมาได้
วิธีเอาตัวรอดเมื่อเวลาเกิดไฟไหม้
แม้แต่ทีมดับเพลิงที่มีประสิทธิภาพที่สุดของอเมริกา ก็ยังต้องเสียชีวิตไปเกือบ 300 คน ในการเข้าดับเพลิงในตึกเวิลด์เทรดเซนเตอร์ที่นิวยอร์ค เพราะฉะนั้น ท่านน่ารู้ว่าเมื่อไหร่ต้องเผ่นป่าราบ เวลาเกิดไฟไหม้
เมื่อเข้าพักหรือทำงานในอาคารสูง ต้องศึกษาเส้นทางหนีไฟและตำแหน่งของบันไดหนีไฟก่อนเสมอ ห้ามใช้ลิฟท์เวลาเกิดไฟไหม้เด็ดขาด
ในขณะหนีไฟเมื่อเกิดไฟไหม้ ถ้าจำเป็นต้องเปิดประตูห้อง ต้องแตะดูที่ลูกบิดประตูก่อนเสมอ ถ้าร้อนจัด อย่าเปิดประตูบานนั้นเป็นอันขาด อาจเกิดปรากฏการณ์ Backdraft ขึ้นได้ (Backdraft น่ากลัวแค่ไหน ต้องลองไปเช่า VDO หรือ VCD หนังเรื่อง Backdraft มาดู)
ถ้าไฟไหม้รุนแรงที่บริเวณนอกห้องจนไม่สามารถหนีออกจากห้องได้ ให้ใช้ผ้าชุบน้ำอุดร่องประตูไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้ควันเข้ามาในห้อง เปิด หน้าต่างแล้วรีบขอความช่วยเหลือ เช่นใช้โทรศัพท์ หรือ โทรศัพท์มือถือ (ถ้ามี) ถ้าควันมีมาก ต้องหมอบลงต่ำ (ปริมาณออกซิเจนในอากาศใกล้ พื้นห้องมีมากกว่าบริเวณเพดานห้อง) และปิดปากและจมูกด้วยผ้าชุบน้ำ
ในกรณีที่ไฟไหม้เรือนนอนผู้ต้องขัง เมื่ออพยพผู้ต้องขังออกมาแล้วให้ตรวจนับยอดผู้ต้องขังทันที ถ้าไม่ครบ ต้องรีบเข้าไปตรวจสอบทุกๆ ห้องของเรือนนอน (ถ้ายังเข้าไปได้) ถ้าไฟกำลังไหม้อุปกรณ์ไฟฟ้า ห้ามใช้น้ำดับไฟเด็ดขาด ท่านอาจเสียชีวิตเพราะถูกไฟดูด